18.00 น.  คณะพร้อมกัน ณ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ อาคารผู้โดยสารขาออก ชั้น 4 ประตูทางเข้า หมายเลข 8 เคาน์เตอร์ T สายการบิน Emirates (EK) โดยมีเจ้าหน้าที่ของบริษัทฯ Drift Travel คอยต้อนรับและอำนวยความสะดวกทางด้านเอกสารการเดินทางและสัมภาระการเดินทางของท่านให้เรียบร้อยก่อนออกเดินทาง

21.25 น.   ออกเดินทางสู่ สนามบินดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยสายการบิน Emirates เที่ยวบินที่ EK373 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่องบิน)

00.50 น. เดินทางถึง สนามบินดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เพื่อแวะเปลี่ยนเครื่อง

03.25 น. ออกเดินทางสู่ สนามบินบาร์เซโลนา เมืองบาร์เซโลนา ประเทศสเปน โดยสายการบิน Emirates เที่ยวบินที่  EK255 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่องบิน)

08.35 น. เดินทางถึง สนามบินบาร์เซโลนา เมืองบาร์เซโลนา ประเทศสเปน หลังจากนั้นนำท่านผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้า เมืองรับสัมภาระ (เวลาท้องถิ่นช้ากว่าประเทศไทย 6 ชั่วโมง)

นำท่านเดินทางสู่ เมืองบาร์เซโลนา (Barcelona) นครใหญ่แห่งคาตาลันยา เมืองใหญ่อันดับ 2 ของสเปน และเป็นเมืองเก่าแก่ที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน เคยเป็นอาณานิคมของโรมันมาก่อน เคยถูกยึดครองโดยชาติต่าง ๆ หลายครั้ง รวมท้ังฝรั่งเศส เมื่อปีค.ศ. 1640 นำท่านเดินทางเข้าสู่ มหาวิหารซากราดา แฟมิเลีย (La Sagrada Familia) โบสถ์เก่าแก่ที่ใช้เวลาสร้างมายาวนานมากเริ่มสร้างตั้งแต่ปีค.ศ. 1882 จนถึงปัจจุบันก็ยังไม่เสร็จสมบูรณ์ เป็นโบสถ์ประจำเมืองซึ่งได้รับการเรียกขานว่า “Church of Holy Family” ซึ่งสร้างโดยสถาปนิกที่มีชื่อเสียงก้องโลก ANTONIO GAUDI ผลงานการออกแบบชิ้นสุดท้ายและก่อสร้างอันยาวนานที่สุดของเกาดี้ ด้วยรูปแบบศิลปะแบบนีโอโกธิค ด้วยแนวความคิดการคืนกลับสู่ธรรมชาติ ตัวอาคารนำเอารูปทรงและพื้นผิวต่างๆจากในธรรมชาติมาใช้ โดยความสูงถึง 150 เมตร ตัวอาคารบรรจงประดับด้วยหินโมเสคประดับด้วยปฏิมากรรมแกะสลักจากหินหลายพันชิ้นจากศิลปินสเปน นำท่านชม สวนสาธารณะ ปาร์ค กูเอล (Park Güell) ถูกสร้างในปี 1900 โดยใช้เวลาถึง 14 ปีในการสร้าง สวนเก่าแก่แห่งนี้ตั้งอยู่บนเขาคาร์เมล ด้วยศิลปะงานโมเสคและเป็นหนึ่งในผลงานชิ้นเอกของสถาปนิกชื่อดัง “เกาดี อี กูร์เนต (Antoni Gaudi i Cornet)” นอกจากนี้องค์การยูเนสโกได้ทำการยกย่องให้สถานที่แห่งนี้เป็นมรดกโลกอีกหนึ่งสถานที่ในประเทศสเปนอีกด้วย และเป็นจุดท่องเที่ยวที่สำคัญมากแห่งหนึ่งของเมืองบาร์เซโลนา จุดเด่นของสวนสาธารณะแห่งนี้คือ “มังกรโมเสค (Mosaic dragon)” ไต่คลานบนบันไดน้ำพุจากมุมนี้เราสามารถเห็นวิวของเมืองบาร์เซโลนาได้อย่างกว้างขวางแถมยังเห็นวิวทะเลอยู่ไกลๆ

เที่ยง    รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร                               

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ ถนนคนเดินลารัมบลาส (La Rambla) ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ของ ตลาด Mercat de la Boqueria ถนนมีความยาวตั้งแต่จัตุรัส Pizza Catalunya ไปถึงท่าเรือ Port Vell เป็นระยะทางกว่า 1 กม. ถนนคนเดินแห่งนี้มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักกันเป็นอย่างดีในบรรดานักท่องเที่ยว ใกล้กันจะพบกับ อนุสาวรีย์คริสโตเฟอร์ โคลัมบัส (Columbus Monument) อนุสาวรีย์แห่งนี้มีความสูงถึง 60 เมตร และถูกก่อตั้งขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่ผู้ที่บุกเบิกทวีปอเมริกาเหนือ ในปีค.ศ.1492 รูปปั้นนี้แกะสลักโดย Rafael Atché รูปปั้นโคลัมบัสที่ชี้ไปยังโลกใหม่ด้วยมือขวา และหากในวันนั้นมีการแข่งขันฟุตบอลนัดใหญ่ของทีมบาร์เซโลนา ชาวเมืองในพื้นที่จะออกมาร่วมฉลองชัยชนะกันบนถนนแห่งนี้หลังจากจบการแข่งขัน อิสระให้ท่านเดินเล่น   ช้อปปิ้ง เลือกซื้อสินค้าตามอัธยาศัย

ค่ำ        รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร 

นำท่านเข้าพักค้างคืน ณ H10 Itaca, Barcelona ระดับ 4 ดาว หรือเทียบเท่า

เช้า      รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านเดินทางเข้าสู่ เมืองซาราโกซ่า (Zaragoza) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง 10 นาที) อดีตเมืองหลวงแห่งแคว้นอารากอนของประเทศสเปน ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเอโบรและแควสาขาอูเอร์บาและกาเยโก ในหุบเขาตอนกลางของแคว้นซึ่งมีภูมิทัศน์ที่หลากหลาย ตั้งแต่ทะเลทราย ป่าหนาทึบ ทุ่งหญ้า ไปจนถึงทิวเขา

เที่ยง    รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

นำท่านเข้าชม มหาวิหารแม่พระแห่งเสาศักดิ์สิทธิ์ (Basilica of our Lady of the Pillar) หรือ ซานตามาเรีย เดอร์ฟิลลาร์เป็นมหาวิหารคริสตจักรนิกายโรมันคาทอลิก สถาปัตยกรรมสไตล์บาร็อค มหาวิหารนี้สร้างทับโบสถ์หลังแรก มีขนาด 8,318 ตารางเมตร ใช้เวลาสร้าง 191 ปี ช่วงปี ค.ศ.1681–1872 ตามตำนานสมัยแรกเริ่มของพระศาสนจักรกล่าวไว้ว่า นักบุญยากอบองค์ใหญ่อัครสาวก (St. Apostle James theGreater) เป็นผู้นิพนธ์พระวรสารที่ซีซาเรากุสต้า (Caesaraugusta เป็นชื่อเดิมของเมืองซาราโกซ่า) กระนั้นงานแพร่ธรรมของท่านไม่ได้เกิดผลมากมายนัก จนกระทั่งท่านเห็นพระนางมารีย์มาปรากฎ เพื่อชักชวนท่านไปยังกรุงเยลูซาเล็ม ในนิมิตนั้นพระนางปรากฎอยู่บนเสาที่ถูกแบกมาโดยหมู่เทพนิกร และเชื่อกันว่าเป็นเสาศักดิ์สิทธิ์ต้นเดียวกับที่เป็นที่เคารพนับถือกันในซาราโกซ่า

ค่ำ        รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร 

นำท่านเข้าพักค้างคืน ณ Hotel Diagonal Plaza, Zaragoza ระดับ 4 ดาว หรือเทียบเท่า

เช้า      รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารของโรงแรม  

นำท่านเดินทางสู่ กรุงมาดริด (Madrid) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง 30 นาที) เป็นเมืองหลวงและเป็นเมืองใหญ่ที่สุดของประเทศสเปน ซึ่งเป็นเมืองใหญ่เป็นอันดับที่ 3 ของทวีปยุโรป รองจาก กรุงลอนดอน และกรุงเบอร์ลิน และในเขตเมืองยังเป็นอันดับที่ 3 ของยุโรป รองจากกรุงลอนดอน และกรุงปารีส อีกด้วย

เที่ยง    รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

นำท่านเข้าชม พระราชวังหลวงแห่งมาดริด (Royal Palace of Madrid) ตั้งอยู่บนเนินเขาบริเวณริมฝั่งแม่น้ำแมนซานาเรส ที่มีความงดงามโอ่อ่า อลังการไม่แพ้พระราชวังอื่นในทวีปยุโรป เนื่องจากแนวความคิดเปรียบเทียบความใหญ่โตของพระราชวังแวร์ซายส์ และความสวยงามของพระราชวังลูฟว์ในฝรั่งเศส พระราชวังหลวงแห่งนี้ จึงถูกสร้างด้วยหินทั้งหลังในปี ค.ศ.1738 ในสไตล์บาร็อค โดยการผสมผสานระหว่างศิลปะแบบฝรั่งเศส และอิตาเลียน ประกอบด้วยห้องต่างๆ มากมายถึง 2,830 ห้อง ซึ่งนอกจากจะมีการตกแต่งอย่างงดงามแล้วยังเป็นที่เก็บภาพเขียนชิ้นสำคัญที่วาดโดยศิลปินในยุคนั้น รวมทั้งสิ่งของมีค่าต่างๆ อาทิ พัดโบราณ, นาฬิกา, หนังสือ, เครื่องใช้, อาวุธ ฯลฯ ชมอุทยานหลวง ที่มีการเปลี่ยนพันธุ์ไม้ทุกฤดูกาลดอกไม้งดงามตลอดปี

ค่ำ        รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร พิเศษ !! นำท่านชมโชว์ ระบำฟลามิงโก้ศิลปะระบำสเปน มรดกแห่งภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมที่ได้รับการขนานนามโดยองค์การยูเนสโกหนึ่งในการแสดงที่ขึ้นชื่อไปทั่วโลกทั้งท่วงท่าการร่ายรำประกอบเสียงดนตรีที่เร้าใจสนุกสนาน

จากนั้นนำท่านเข้าพักค้างคืน ณ NH Madrid Ventas ระดับ 4 ดาว หรือเทียบเท่า

เช้า      รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านเดินทางเข้าสู่ เมืองโทเลโด (Toledo) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง) เป็นเมืองโบราณตั้งอยู่บนเนินเขามีทั้งภูเขาและแม่น้ำเป็นกำแพงธรรมชาติล้อมรอบ มีป้อมปราการ มีกำแพงเมือง มีประตูเมืองกั้นเขตเมืองเก่าอีกชั้นในปี ค.ศ. 1986 องค์การยูเนสโกได้ประกาศให้เมืองนี้เป็นแหล่งมรดกโลก เนื่องจากมีมรดกทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมอย่างมากมายในฐานะหนึ่งในเมืองหลวงของจักรวรรดิสเปน รวมทั้งยังเป็นสถานที่ที่ปรากฏร่องรอยวัฒนธรรมของชาวคริสต์ ชาวยิว และชาวมัวร์อยู่ร่วมกันอีกด้วย นำท่านเข้าชม มหาวิหารแห่งโทเลโด (Toledo Cathedral) มหาวิหารที่ใหญ่ที่สุดในสเปนที่ เริ่มสร้างขึ้นเมื่อ ค.ศ. 1227 เสร็จสิ้นสมบูรณ์เมื่อ ค.ศ.1493 ซึ่งสร้างขึ้นจากที่ตั้งของมัสยิดเดิม เป็นโบสถ์นิกายโรมันคาธอลิกในเมืองโทเลโด เป็นมหาวิหารที่มีความโดดเด่นด้วยความงามของศิลปะและสถาปัตยกรรม ศิลปะโกธิกสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 10 มีต้นกำเนิดจากชาวมัวร์ แต่ส่วนหลักถูกสร้างขึ้นในปี 1559

เที่ยง    รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร พิเศษ!! เมนูหมูหัน หนังกรอบอันขึ้นชื่อประจำเมืองที่ไม่ควรพลาด

นำท่านเดินทางสู่ เมืองคอร์โดบา (Cordoba) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง 40 นาที) เมืองคอร์โดบา เมืองมรดกโลกที่ครั้งหนึ่งในอดีตมีความรุ่งเรืองถึงขั้นเป็นเมืองแห่งการปกครองของโลกตะวันตก เป็นอีกเมืองหนึ่งของสเปนที่มีศิลปะของชาวมัวร์โบราณ และสุเหร่าที่สวยงามมากที่สุดแห่งหนึ่ง เมืองคอร์โดบาก่อตั้งขึ้นในสมัยโรมันโบราณในชื่อ กอร์ดูบา (Corduba) โดยเกาลาดีอุสมาร์เซลลุส (Claudius Marcellus) ในปี พ.ศ.2548 ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของสเปน มีทัศนียภาพที่สวยงาม และยังเป็นเมืองที่ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของแม่น้ำ GUADALQUIVIR อันมีเอกลักษณ์ของตัวเองที่ไม่เหมือนเมืองอื่น ๆ

ค่ำ        รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร

นำท่านเข้าพักค้างคืน ณ Hotel Cordoba Center ระดับ 4 ดาว หรือเทียบเท่า

เช้า      รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านเข้าชม สุเหร่าแห่งคอร์โดบา (The Great Mosque of Cordoba) เป็นสุเหร่าใหญ่ของกาหลิบโอมเมยาด เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของอิสลามที่ใหญ่โตที่สุด หรูหราที่สุด มีพื้นที่ถึง 24,000 ตรม. ที่ล้อมด้วยกำแพงหนามีความสูง 9 – 18 เมตร ภายในประกอบด้วย เสาหินแบบต่าง ๆ ที่ถูกขนมาจากทั่วยุโรป บริเวณส่วนกลางชาวคริสต์ได้สร้างโบสถ์คริสต์เป็นสไตล์เรอเนซอง ที่งดงามมาก ตั้งอยู่บริเวณตรงกลางของสุเหร่า ประดับตกแต่งด้วยไม้มะฮอกกานีแกะสลักอย่างสวยงามเป็นโบสถ์ที่ใหญ่เป็นอันดับสองของสเปน ยังมีรูปปั้นของ Abd al-Rahman  อับดุลอัลเราะห์มานฉัน ขนาดใหญ่สีเขียว ซึ่งเป็นหนึ่งในแลนด์มาร์คของที่นี่อีกด้วย

เที่ยง    รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองกรานาด้า (Grananda) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง 30 นาที) เมืองในหุบเขาแห่งชนชาติมัวร์ ตั้งอยู่เทือกเขาเซียร์ราเนวาดา (Sierra Nevada Mountains) บริเวณที่แม่น้ำดาร์โร (Darro) และแม่น้ำเฮนิล (Genil) อิสระให้ท่านพักผ่อนตามอัธยาศัย

ค่ำ        รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร

นำท่านเข้าพักค้างคืน ณ Hotel Granada Center ระดับ 4 ดาว หรือเทียบเท่า

เช้า      รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านเดินทางสู่ พระราชวังอัลฮัมบลา (Alhambra Palace) เข้าชมพระราชวังอัลฮัมบลา ที่สร้างขึ้นระหว่างปี ค.ศ. 1248-1354 โดยกษัตริย์มุสลิมชาวมัวร์ พระเจ้าโมฮัมเหม็ดที่ 1 อิบน์ นัสร์แห่งราชวงศ์นาสริด ซึ่งเป็นราชวงศ์ของชาวมุสลิมราชวงศ์สุดท้ายในสเปน "อัลฮัมบลา" มาจากคําในภาษาอาหรับว่า "อัลคัมรอ" แปลว่า "สิ่งที่มีสีแดง" เนื่องจากตัวป้อมปราการนั้นก่อสร้างด้วยหิน ดินและอิฐสีแดง ท่านสามารถมองเห็นหอคอยป้อมปราการสีแดงของ Alhambra ครองเส้นขอบฟ้าของกรานาด้า โดยมีฉากหลังเป็นยอดเขาเซียร์รา เนวาดา ที่งดงามตระการตาเป็นอย่างมากอีกด้วย และยังได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกในปี ค.ศ.1984

เที่ยง    รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองเซบียา (Sevilla) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง 20 นาที) เป็นเมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคอันดาลูเซียทางตอนใต้ของสเปน มีชื่อเสียงในด้าน สถาปัตยกรรม และประวัติศาสตร์อันยาวนาน อิสระให้ท่านพักผ่อนตามอัธยาศัย

ค่ำ        รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร

นำท่านเข้าพักค้างคืน ณ Hotel Macià Sevilla Kubb ระดับ 4 ดาว หรือเทียบเท่า

เช้า      รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านชม พลาซ่าเดอเอสปานา (Plaza de Espana) หรือที่เรียกว่า "จัตุรัสสเปนนิชสแควร์" จัตุรัสอันโด่งดังที่สุดแห่ง เซวีย่า ด้วยเพราะอาคารที่ตั้งล้อมรอบจัตุรัสนั้น ได้รับการออกแบบจาก Anibal Gonzalez และได้ก่อสร้างขึ้นสำหรับงาน Ibero-American ในปี 1929 ในรูปแบบเรเนซองส์สเปน เพื่อให้เป็นสัญลักษณ์แห่งสันติภาพระหว่างประเทศสเปน และอดีตอาณานิคมสเปนอีกด้วย ทั้งนี้ในบริเวณดังกล่าวยังให้ท่านได้ชมหอคอยทองคำ ตั้งอยู่ริมแม่น้ำคัวดันอีเบียร์ ซึ่งถือว่าเป็นแม่น้ำประจำเมืองสร้างในศตวรรตที่ 12 เรียกว่า “หอคอยทองคำ” ตามสีของกระเบี้องเคลือบที่ใช้ตกแต่งยอดหอคอยนั่นเอง

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองกาเซเรส (Caceres) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง 40 นาที) เป็นเมืองหลักของจังหวัดกาเซเรสในแคว้นเอกซ์เตรมาดูรา ทางภาคตะวันตกของประเทศสเปน เมืองเก่าหรือ "ซิวดัดโมนูเมนตัล" (Ciudad Monumental) มีกำแพงโบราณล้อมรอบอยู่โดยยังคงลักษณะที่ได้สร้างไว้ในยุคกลางอย่างสมบูรณ์ กาเซเรสได้รับการประกาศให้เป็นเมืองมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโกเมื่อปี ค.ศ. 1986 เนื่องจากความโดดเด่นของงานสถาปัตยกรรมในเมืองที่มีการผสมผสานระหว่างรูปแบบ ต่าง ๆ ได้แก่ โรมัน อิสลาม นอร์เทิร์นกอทิก และอิตาเลียนเรอเนซองซ์

เที่ยง    รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ กรุงมาดริด (Madrid) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง) อิสระให้ท่านพักผ่อนตามอัธยาศัย

ค่ำ        รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร พิเศษ!! เมนู Paella ข้าวผัดสเปน  

นำท่านเข้าพักค้างคืน ณ NH Madrid Ventas ระดับ 4 ดาว หรือเทียบเท่า

เช้า      รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านชม พลาซ่า มายอร์ (Plaza Mayor) เป็นจัตุรัสที่ตั้งอยู่ใจกลางกรุงมาดริด โดยเป็นจุดเริ่มต้นกิโลเมตรที่ 0 จัตุรัสนี้สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1580 และสร้างเสร็จในปี ค.ศ.1619 ตรงกลางลานโล่งของจัตุรัสพลาซ่า มายอร์ที่กว้างขวางแห่งนี้ มีอนุสาวรีย์ของกษัตริย์ฟิลิเปที่ 3 ประทับนั่งบนหลังม้าขณะยกเท้าย่างก้าว บริเวณรอบๆ จัตุรัสรายล้อมไปด้วยร้านอาหาร ร้านกาแฟ ร้านของที่ระลึก และร้านค้าอื่นๆ อีกมากมาย ตลอดจนเป็นพื้นที่ที่เหล่าศิลปินมาแสดงผลงานให้ได้ชมอย่างเพลิดเพลิน แม้แต่การสู้วัวกระทิงที่เป็นเอกลักษณ์ของวัฒนธรรมการต่อสู้ของสเปนที่โด่งดังไปทั่วโลกก็สามารถหาชมได้ที่นี่เช่นกัน จากนั้นนำท่านชม พลาซ่า เดอ เอสปาน่า (Plaza de España) เป็นจัตุรัสขนาดใหญ่และสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมที่ตั้งอยู่ใจกลางกรุงมาดริด ใจกลางจัตุรัสคืออนุสาวรีย์ที่ประกอบด้วยเสาหินที่มีรูปป้ัน มิเกล เด เซร์บันเตส เป็นนักเขียนชาวสเปน มีผลงานที่เป็นที่รู้จักกันดีคือ ดอนกิโฆเต้ แห่งลามันช่า และมีประติมากรรมสำริดของ ดอนกิโฆเต้และซานโช ปันซา อยู่ตรงใต้ฝ่าเท้าด้านหน้าของอนุสาวรีย์ ส่วนด้านข้างจะประติมากรรมหินของ Aldonza Lorenzo ซึ่งจัตุรัสแห่งนี้อยู่ติดกับตึกระฟ้าที่โดดเด่นที่สุดสองแห่งของมาดริด

เที่ยง    รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารไทย

นำท่านเดินทางสู่ ตลาดซานมิเกล (Mercado San Miguel) เป็นตลาดในอาคารที่มีหลังคากระเบื้องสีน้ำตาล หนึ่งในตลาดที่เก่าแก่ที่สุดในมาดริดที่บรรยากาศสุดคึกคักแห่งนี้ ถือเป็นศูนย์กลางทางวัฒนธรรมอาหารของสเปน โดยนอกจากภายในจะมีร้านอาหารหลากหลายให้เลือกแล้ว ที่นี่ยังเป็นตลาดนัด เป็นแหล่งช้อปปิ้งอุปกรณ์บนโต๊ะอาหารระดับไฮเอนด์ เป็นแหล่งจำหน่ายผลิตภัณฑ์ในการทำอาหาร ตลอดจนอาหารหลายชนิดซึ่งผลิตในสเปนด้วย ในช่วงเย็นตลาดซานมิ   เกลจะกลายเป็นจุดนัดพบยอดนิยมสำหรับการผ่อนคลาย ด้วยเครื่องดื่มอย่างไวน์ท้องถิ่น เบียร์ หรือค็อกเทล คู่กับอาหารว่างเบาๆ อย่างทาปาส โดยมีไฮไลต์อยู่ที่เมนูอาหารทะเล เช่น แซลมอน หรือหอยนางรม ตลาดนี้เปิดทุกวัน ตั้งแต่เที่ยงวันไปจนถึงเที่ยงคืนเลยทีเดียว  อิสระให้ท่านช้อปปิ้งซื้อสินค้าที่ระลึก และของฝากตามอัธยาศัย

ค่ำ        อิสระอาหารค่ำ เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาในการท่องเที่ยว

ได้เวลาอันสมควร นำท่านเดินทางสู่สนามบินกรุงมาดริด

22.05 น. ออกเดินทางสู่ สนามบินดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยสายการบิน Emirates เที่ยวบินที่ EK144 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่องบิน)

07.15 น. เดินทางถึง สนามบินดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เพื่อแวะเปลี่ยนเครื่อง

09.40 น. ออกเดินทางสู่ สนามบินสุวรรณภูมิ ประเทศไทย โดยสายการบิน Emirates เที่ยวบินที่ EK372 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่องบิน)

19.15 น. เดินทางมาถึง สนามบินสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพ